ปลอกแขนกันแดด กับ เคล็ดลับในการปั่นจักยานขึ้นเขาชันและเลี้ยวโค้ง

             การใช้ปลอกแขนกันแดดในการปั่นจักรยานนั้นจะช่วยป้องกันแดดไม่ให้เผาแขนจนดำคล้ำ แห้งเสีย ได้ และในบทความนี้จะพูดถึงการปั่นขึ้นเขาชันและเลี้ยวโค้งเพื่อที่จะได้ปั่นสนุกและมีคุณภาพในการปั่นจักรยานที่สูงขึ้น ไม่ปั่นช้าลง และทำเวลาดีขึ้นในจังหวะขึ้นเขา ซึ่งอาจสูญเสียความเร็วลงจนทำให้ต้องลงเดินได้ หรือแม้แต่การเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนนำไปสู่ความสูญเสีย ซึ่งการปั่นขึ้นเขานั้นถือเป็นจุดสุดยอดที่หลายคนใฝ่ฝันของนักปั่นจักรยาน ซึ่งหมายถึงการโชว์ศักยภาพความแข็งแรงของหัวใจ ปอด และเป็นการวัดใจ การฝึกความอดทน และทรงตัวระหว่างช้า เร็ว การควบคุมรถจักรยานไปในทางที่เราต้องการ และเหตุผลที่ดีที่สุดคือการฝึกสมาธิ การหายใจอย่างเป็นระบบ การเอาชนะตัวเองโดยไม่ลงไปเดินนั่นเอง

          โดยการใช้ปลอกแขนกันแดดควบคู่ไปกับการลงเขานั้น จะมีเทคนิคเด่นๆดังนี้

          1.มองดูเส้นทางให้ละเอียด และคำนวณจุดที่ปั่นว่าสูง โค้ง แดดจัดแค่ไหน ซึ่งควรใช้ปลอกแขนกันแดดควบคู่กันไปกับการใช้เกียร์จักรยานให้เหมาะสวม มีระยะการมองไกล ใกล้ต่างกัน ควรจะระวังให้ดี

          2.ต้องทำการคำนวณผิวถนนถึงเรื่องของความขรุขระ และและประเภทของถนนควบคู่ไปกับการใช้ปลอกแขนจักรยาน ซึ่งจะต้องควบคุมรถไม่ให้เสียการทรงตัวในแต่ละพื้นผิวถนนต่างกัน

          3.ต้องมีการวางท่าทางการปั่นและอุปกรณ์อย่างเหมาะสมเช่นการใช้ปลอกแขนกันยูวี หมวก และเครื่องป้องกันอื่นๆ สำหรับการขึ้นเขาที่สูงชันมากๆ เราจะต้องจัดลำตัวให้ทำมุมสามสิบองศาและเอนไปข้างหน้าค่อนข้างเยอะ เพื่อไม่ให้ล้อด้านหน้ายกขึ้นมาและทำให้หงายหลังได้ และทำการกางแขนออกให้เพียงพอ ไม่กดแฮนด์หน้ามากเกินไปเพื่อให้ล้อด้านหน้ายึดกับถนนเพิ่มขึ้น และไม่ทำให้เสียการทรงตัว และลำตัวควรเอียงซ้าย ขวา ไปมา ทำให้การควบคุมนั้น มีความยากน้อยลงและไปในเส้นทางที่เราต้องการ และควรจะหายใจให้เป็นจังหวะโดยการหายใจลึกๆแล้วค่อยๆปล่อยออก รวมไปถึงการหายใจทางปากช่วย รวมไปถึงการเพิ่มพลังด้วยพาวเวอร์บาร์และน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ร่างการขาดน้ำ ซึ่งควรทำต่อเมื่อไม่เจอผิวที่ขรุขระ

4.จัดท่าทางของช่วงล่างของเราให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม นั่นก็คือส่วนที่เอนไปทางด้านหน้าของเบาะจักรยาน ซึ่งจะข่วยให้เพิ่มน้ำหนักที่กดไปมากขึ้น และทำให้ล้อหลังไม่เกิดอาการปั่นฟรี ทำให้สามารถปั่นไปข้างหน้าได้ และก็จะไม่เสียการทรงตัวซ้ายขวา รถจะวิ่งขึ้นไปตรงๆโดยที่ไม่สูญเสียความเร็วในตอนแรกมากนัก ความเร็วจะต่อเนื่องไปเรื่อยๆพร้อมกับระยะเวลาปั่นที่สม่ำเสมอกับระยะทาง แต่ถ้าแดดร้อน ควรใช้ปลอกแขนกันแดด เนื่องจากจะทำให้ปั่นช้าลงและเหนื่อยง่ายขึ้น ในส่วนของลำตัวช่วงล่างนั้น จะต้องมั่นคง ไม่เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง และค่อยๆปั่นในจังหวะสม่ำเสมอหรือใช้รอบขาเร็วไปอาจเสียแรง ทำให้หมดแรงได้อย่างรวดเร็ว

5.ในส่วนของข้อสุดท้ายจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์เช่นปลอกแขนจักรยาน ตัวจักรยาน และอุปกรณ์การป้องกัน โดยเฉพาะการตังหลักอานให้สูงขึ้นกว่าเดินประมาณ1นิ้ว เพื่อที่จะได้ผ่อนแรงกล้ามเนื้อท่อนบนและทำการปั่นโดยใช้รอบขาได้สะดวกมากยิ่ง่ขึ้น และจะมีในบางช่วงที่ไม่ชั้นมากเกินไป ไม่อย่างนั้นจะทำให้ล้อหลังฟรีและรถไม่เคลื่อนที่ไปด้านหน้า หรืออาจทำให้เกิดการเสียการทรงตัวและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

การเลี้ยงโค้งนอกขึ้นทางชัน

การปั่นจะเคลื่อนตัวจากตีนเขา วิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ โดยจะเคลื่อนตัวจากเลนส์หนึ่งไปอีกเลนส์ จากมุมที่มีความลาดชั้นน้อย ไปมุมนอกที่จะต้องใช้แรง และออกกำลังขาและลำตัวช่วงล่างในการปั่นค่อนข้างน้อย รวมไปถึงทำความเร็วได้ดี ทรงตัวง่าย เพราะจะค่อยๆเลี้ยวเพิ่มมุมองศาทีละนิด โดยการใช้กล้ามเนื้อขาควงรอบเป็นส่วนใหญ่ แทนที่จะกดน้ำหนักไปที่บันได ก็จะสลับดึงข้อเท้า เช่น เท้าขวาดึง เท้าซายกด เป็นความสม่ำเสมอ ซึ่งไม่ควรที่จะให้รอบขาสูงเกิน50รอบ ในช่วงที่ทางมีความลาดชัน

สำหรับการขึ้นเขาชันและต้องเลี้ยงโค้งด้านใน

เพราะการขึ้นเขาชันและโค้งในนั้นอาจจะต้องใช้แรงและกำลังของกล้ามเนื้อท่อนบนและท่อนล่างมากหน่อย เพราะความลาดชั้นจะสูงมาก มุมองศาที่สามารถเลี้ยวได้จะค่อนข้างน้อง อาจทำให้เสียการทรงตัวและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยจังหวะในการเลี้ยวกะทันหันนั้น อาจจะทำให้รถสูญเสียความเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นพอๆกับการใช้ปลอกแขนกันแดดเพื่อป้องกันความร้อน โดยโอกาสพลาดสูง และอาจทำให้เสียกำลังโดยเปล่าประโยชน์ และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก