การออกกำลังกายสำหรับกีฬาประเภทต่างๆควรหาอุปกรณ์ที่เหมาะสม ซึ่งในที่นี้การขี่จักรยานเป็นหนึ่งในกีฬาที่มีอุปกรณ์หลายประเภท ทั้งเสื้อ กางเกง รองเท้า รวมถึงอุปกรณ์กันแดดอย่างปลอกแขนกันแดด(ปลอกแขนกันUV) หรือ ปลอกแขนจักรยาน
คนส่วนใหญ่ที่มีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม โดยปกติแล้ว ถ้าเดินเร็วในอัตราส่วน 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จะใช้พลังงานเท่ากับ 2.3x70 = 161 กิโลแคลอรี่ ซึ่งจะเที่ยบเท่ากับพลังงานจากกาแฟเย็น 1 แก้ว แต่ถ้าขี่จักรยานที่ความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อ่ชั่วโมง ก็จะเผาผลาญสารอาหาร และใช้พลังงานเท่ากับการเดินเร็ว 3 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง นั่นหมายความว่าการขี่จักรยาน มีประโยชน์ในด้านการเผาผลาญและการใช้พลังงาน ซึ่งมีผลทำให้ลดอัตราการสะสมของไขมันในหลอดเลือดที่ทำให้เกิดความดันสูงและโรคภัยต่างๆมากมาย
นอกจากนั้น การขี่จักรยานแบบต่อเนื่องยังเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ซึ่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น หัวใจทำงานได้ดีขื้น การออกกำลังกายแบบแอโรบิคแบบต่อเนื่องยังช่วยในการหมุนเวียนโลหิตทั่วร่างกายให้ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงอวัยวะสำคัญในร่างกาย ได้แต่สมอง ไต ทั้งยังช่วยลดตะกรันไขมันในหลอดเลือดร่างกาย ดังนั้นจึงช่วยป้องกันเส้นเลือดตีบตันภายในอวัยวะสำคัญดังกล่าวได้
การขี่จักรยาน ยังได้ประโยชน์โดยตรงต่อกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ยืดเส้นยืนสาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณเอว สะโพก กล้ามเนื้อขา ซึ่งช่วยป้องกันการปวดกล้ามเนื้อในส่วนดังกล่าวได้
นอกจากนั้น การขี่จักรยานยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบหายใจ โดยเป็นการเพิ่มอัตราการแลกเปลี่ยนออกซฺเจนลคาร์บอนไดออกไซด์ภายในถุงลมที่อยู่ในปอดให้ดียึ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มระดับของฮอร์โมนเอนโดฟิน ที่จะช่วยลดความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งการขี่จักรยาน ยังเป็นกิจกรรมที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ดี (แต่ในกรณีที่ขี่กลางแจ้ง ควรจะป้องกันแสงแดด้วยปลอกแขนกันยูวี ปลอกแขนจักรยาน) ได้รับมลพิษน้อยลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับร่างกาย การขี่จักรยานลงเขาถือเป็นการออกกำลังกายที่หนัก และใช้พลังงานมหาศาล แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อหัวใจในคนที่แข็งแรงอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้หัวใจแข็งแรงมากขึ้นเป็นทวีคูณ เช่นเดียวกันในกีฬาอื่นๆ เช่น เทนนิส ฟุตบอล ปีนเขา ไตรกีฬา ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่หนัก ผู้ที่สามารถเล่นกีฬาเหล่านี้ได้ จำเป็นต้องมีปอดและหัวใจที่แข็งแรง
คำแนะนำสำหรับผุ้ที่เริ่มขี่จักรยาน
1.เบาที่นั่ง ต้องเหมาะกับสรีระของร่างกาย ถ้านิ่มไปจะทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นขาได้ ถ้าแข็งไปจะทำให้กล้ามเนื้อก้นอักเสบและเมื่อยล้า
2. ความสูงของเบาะกับขาถีบ จะต้องพอดีกับความยาวของขาผู้ถีบ เมื่อเหยียดขาสุด ควรให้องศาเขาเท่ากับแนวตรงของขาไม่เกิน 150 องศา ถ้าเกินหรือน้อยกว่านี้มากๆ อาจาทำให้เมื่อยล้าและปวดกล้ามเนื้อขาได้ง่าย
3. การขี่จักรยานกลางแจ้ง ควรจะหาชุดที่ป้องกันแสงอาทิตย์ได้ เนื่องจากรังสียูวีจากแสงอาทิตย์เป็นต้นเหตุให้เกิดผิวเหี่ยวย่น คล้ำเสีย รวมทั้งยังต้นเหตุของโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งผิวหนัง ดั้งนั้นจึงควรที่จะป้องกันผิวหนังส่วนที่โดนแสงอาทิตย์โดยตรงเช่นแขน โดยควรจะใส่เสื้อแขนยาว หรือถ้าไม่สะดวก ก็ควรเป็นปลอกแขนกันยูวี ปลอกแขนจักรยาน เนื่องจากระบายอากาศได้ดี ทั้งยังสะดวกถอด-ใส่เวลาอยู่ในร่มอีกด้วย
หน้าที่เข้าชม | 441,345 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 327,588 ครั้ง |
เปิดร้าน | 3 ก.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ส.ค. 2568 |